นโยบายความเป็นส่วนตัว

วัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้นั้น จะถูกใช้ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
    1. เพื่อใช้ดำเนินการตามคำขอใช้บริการของท่าน และเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้อง
    2. เพื่อบริหารจัดการกรมธรรม์ของท่าน โดยสามารถดำเนินการจัดทำและต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้กับลูกค้าของบริษัท
    3. เพื่อประเมินความต้องการเพิ่มเติมด้านประกันภัยของลูกค้าของบริษัท
    4. เพื่อทำการตลาดของผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทกับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ามุ่งหวัง
    5. เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวิจัยทางการตลาด
    6. เพื่อให้สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติของบริษัทที่อยู่ภายใต้กฎหมายกฎระเบียบและข้อบังคับจรรยาบรรณ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บ
    ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
    1. ข้อมูลแสดงตนของท่านและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อและนามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง รูปภาพ เพศ วันเกิด อายุ สถานภาพ ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล์เป็นต้น
    2. ข้อมูลทางการเงินของท่าน เช่นรายได้ แหล่งที่มาของรายได้เลขบัญชีธนาคารหมายเลขบัตรเครดิตเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเป็นต้น
    3. ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐานหรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของท่าน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบอนุญาตขับขี่ สำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ เลขทะเบียนรถยนต์ สำเนาหนังสือมอบอำนาจหน้าตารางกรมธรรม์อื่นเป็นต้น
    4. ข้อมูลในการยืนยันตัวตน เช่น ชื่อผู้ใช้งาน (User) รหัสผ่านเข้าใช้งาน (Password)
    5. ข้อมูลด้านเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ (Location) โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการการทำธุรกรรม (Transaction Log) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลที่ถูกค้นหาหรือเข้าชม ข้อมูลการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น
    6. ข้อมูลการตอบแบบสอบถามหรือข้อมูลการกรอกแบบฟอร์มของบริษัท
    7. บันทึกภาพนิ่งหรือบันทึกภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือบันทึกเสียงการสนทนา หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้
    8. ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังข้อมูลข้างต้นที่ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
  • แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
    1. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรงจากการรวบรวมข้อมูลจากท่านในขั้นตอนดังนี้
      • 1.1 จากความสมัครในในการยื่นคำร้องขอทำประกันภัย สมัครใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่างๆกับบริษัท
      • 1.2 การขอรับข้อเสนอและ/หรือขอเข้าร่วมรายการส่งเสริมการตลาด
      • 1.3 จากการที่ท่านติดต่อกับบริษัทตามช่องทางการสื่อสารต่างๆ
      • 1.4 จากการทำธุรกรรมสัญญา
    2. บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม ดังต่อไปนี้
      • 2.1 จากบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญาคู่ค้าหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท
      • 2.2 จากบริษัทประกันภัย ประกันชีวิต ที่เป็นคู่สัญญาในฐานะนายหน้าประกันภัย
      • 2.3 จากการสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบเว็ปไซต์ หรือการได้ข้อมูลมาจากบุคคที่สาม โดยบริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบและขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลจากแห่งดังกล่าว


ในกรณีการทำธุรกรรม หรือการทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบันแก่บริษัทอาจส่งผลกระทบต่อท่านที่อาจไม่สามารถทำธุรกรรมกับบริษัท หรืออาจไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญาที่มีอยู่กับบริษัท และอาจทำให้ท่านได้รับความเสียหายหรือเสียโอกาส และอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใดๆ ที่ท่านหรือบริษัทต้องปฏิบัติตาม

  • การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสารและ/หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อย่างจำกัดและเป็นไปเพียงเท่าที่จำเป็นในการให้บริการ และใช้งานภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทในระยะเวลานานเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งจะป็นข้อมูลที่ถูกต้องสมบูรณ์และเป็นปัจจุบันที่สุดและได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฏหมายกำหนด โดยในกรณีที่ท่านยุติความสัมพันธ์ หรือสิ้นสุดสัญญากับบริษัท หรือกรณีไม่มีการใช้บริการหรือการทำธุรกรรมบริษัทแล้ว หรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่แจ้ง บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่กำหนดหลังจากนั้น หรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

  • การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อการดำเนินการตามขั้นตอนในการขอรับบริการ ขอรับข้อเสนอ หรือขอเข้าร่วมรายการส่งเสริมการตลาดอื่น เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่างๆแก่ท่านโดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องนั้น บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ และไม่ให้ใช้ หรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลทั้งนี้ บุคคล หน่วยงาน ที่บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังต่อไปนี้

  1. บริษัทในเครือของบริษัทโดยบริษัทอาจเปิดเผยให้แก่พนักงานหรือบุคคลกรของบริษัทในเครือตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้ง
  2. คู่สัญญาและพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทเช่น บริษัทประกันนายหน้าประกันภัยตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เป็นต้น
  3. ผู้ให้บริการซึ่งเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในการให้บริการต่างๆเช่น การให้บริการด้านความปลอดภัย การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรืออาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน
  4. บริษัทผู้ให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ของท่าน เช่น บริษัทรถเช่า หรือใช้ระหว่างซ่อมศูนย์ให้บริการรถยนต์ อู่ซ่อมรถเป็นต้น
  5. หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายรวมถึงเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานที่มีหน้าที่หรือใช้อำนาจตามกฎหมายเช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำนักงานป้องกันและปราบกรามการฟอกเงินกรมสรรพากรเป็นต้น
  6. หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เช่น บริษัทประกัน ธนาคาร สถาบันการเงินหรือ ผู้ให้บริการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบการชำระเงินเป็นต้น
  7. บุคคล หน่วยงาน หรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น ผู้สำรวจภัยผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจประเมินภายนอก ที่ปรึกษาทางกฎหมายผู้รับส่งเอกสารผู้ให้บริการภายนอกที่เกี่ยวข้องเป็นต้น
  8. บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือหน่วยงานนั้น ๆ
  • สิทธิของเจ้าของข้อมูล
    ภายใต้กฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านมีสิทธิดังต่อไปนี้
  1. สิทธิที่จะทราบและเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมและประมวลผล
  2. สิทธิที่จะขอให้บริษัทดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้
  3. สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวอาจทำให้ท่านไม่สามารถรับบริการหรือทำธุรกรรมกับบริษัทได้
  4. สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งท่านมีสิทธิขอให้บริษัทรับส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลอื่น เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
  5. สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้เว้นแต่กรณีที่บริษัทเห็นว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  6. สิทธิขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
  7. สิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
    (1) เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ หรือไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    (2) เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
    (3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นที่บริษัทจะเก็บรักษา แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
    (4) ในกรณีที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านหรือตรวจสอบความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ
  8. สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัทมิได้ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ก่อนการร้องเรียนดังกล่าว บริษัทขอให้ท่านโปรดติดต่อมายังบริษัท เพื่อให้บริษัทได้มีโอกาสรับทราบข้อเท็จจริงและได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ รวมถึงจัดการแก้ไขข้อกังวลของท่านก่อน
  • ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายบริษัทได้จัดให้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรการรักษาความปลอดภัยซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
    เว็บไซต์ของบริษัทอาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน โดยบริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใดๆ ของท่านที่เก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
นักลงทุนสัมพันธ์
นโยบายบริษัท
มาตรฐานการรับรอง
ติดต่อเรา
บริษัท โคโรเนทโบรกเกอร์ จำกัด
3388/89 อาคารสิรินรัตน์ ชั้น 24
จันทร์ - ศุกร์ 08.30 - 17.30
©Copyright 2023 © Coronet Brokers Public Company Limited All Right Reserved.